นำเสนอข่าวและบทความ >>>>โดย ครู กศน.ดอทคอม
สัปดาห์นี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจ ขอเลือกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 9 เรื่อง ดังนี้
1. วันที่ 13 มี.ค.56 คุณ “Tanatcha Gavfaynog” กศน.คลองหาด ถามในหน้าเฟซบุ๊คผม ว่า อย่ากเรียนต่อ ป.โท คณะอะไรดีเพื่อสอบ ผอ. ศูนย์ในอนาคต
ผมตอบว่า ถ้ายังไม่มีปริญญาทางการบริหารการศึกษา ก็ต้องเรียนการบริหารการศึกษา
จากนั้น วันที่ 15 มี.ค.56 ผมไปโพสท์ในเฟซบุ๊คกลุ่มครูนอกระบบ ว่า “ อนาคตได้เป็นผู้บริหารแน่ เพราะ กศน.ขาดแคลนผู้บริหาร
ดูข้อมูลการเกษียณในอนาคตแล้ว กศน.ขาดแคลนผู้บริหาร ต้องนำเข้าจาก สพฐ.แน่นอน
สอบ ผอ.กศน.อำเภอ ทุกปี ก็ยังไม่ครบ ที่เพิ่งปิดรับสมัครสอบไป ผู้สมัครก็น้อยกว่าอัตราที่ต้องการ ใครสอบได้คะแนนผ่านเกณฑ์ 60 % ก็จะได้เป็นผู้บริหารทั้งหมด
ในอนาคตจะมีผู้บริหารเกษียณอีกมาก
ฉะนั้น บุคลากร กศน.ต่าง ๆ ขอให้หาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และ เรียนปริญญาทางการบริหารการศึกษา กันไว้นะครับ อนาคตจะได้เป็นผู้บริหารแน่ ( ถ้าไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และ ไม่มีปริญญาทางการบริหารการศึกษา จะไม่มีสิทธิเป็นผู้บริหารฯ )
คุณจิราพร อัครเสริญ หัวหน้า กศน.ต.สวนจิก อ.ศรีสมเด็จ ถามว่า ครูกศน ตำบลมีสิทธิใหม
ผมตอบว่า ครูกศน.ตำบล ก็เรียนเอกบริหารการศึกษาตั้งแต่ช่วงนี้ แล้วก้าวไปทีละขั้นเริ่มจากสอบเป็นข้าราชการครู ขั้นต่อไปก็สอบเป็นผู้บริหาร ถ้าจะรอไปเรียนตอนหลัง จะไม่ทันคนอื่น
2. วันที่ 15 มี.ค.56 ผมเป็นกรรมการ ไปร่วมกำหนดคุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย ให้ สนง.กศน.จ.พระนครศรีอยุธยา
ได้มีการถามกันในเรื่องอื่น ว่า “ตัวถ่วงคอมพิวเตอร์” คืออะไร
ค่าตัวถ่วง คือ “ค่าสัมประสิทธิ์ ( factor : ตัวประกอบ ) ที่ใช้คำนวนค่าปรับ กรณีที่ผู้ขายไม่สามารถแก้ไข/ซ่อมครุภัณฑ์ภายในกำหนดระยะเวลาที่ระบุแนบท้าย สัญญา (TOR)”
โดยมีหลักการกำหนดค่าตัวถ่วงมากน้อยตามความสำคัญของครุภัณฑ์นั้น ๆ ( ถ้าสำคัญน้อยอาจให้ค่าตัวถ่วงเป็น 0.25 ถ้าสำคัญมากให้ค่าตัวถ่วงเป็น 1 ค่าตัวถ่วงต้องไม่เกิน 1 ธรรมชาติของค่าสัมประสิทธิ์มีค่าไม่เกิน 1 ถ้าเกิน 1 จะไม่เป็นธรรม และอาจถือได้ว่าสัญญานั้นเป็นโมฆะตามมาตรา 11 ของพรบ.ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540 )
ค่าตัวถ่วง เช่น
( แยกรายการ ตามรายการในใบกำกับสินค้า : invoice ถ้าในใบกำกับสินค้าไม่ได้แยกรายการ/แยกราคา ก็ไม่ต้องแยกตัวถ่วงแต่ละรายการ ถ้าในใบกำกับสินค้าระบุราคาแต่ละรายการ ก็ให้กำหนดตัวถ่วงแยกแต่ละรายการ )
- เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายระบบสนับสนุน = 0.50
- เครื่องคอมพิวเตอร์พกพาทุกประเภท = 1.00
- เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายระบบหลัก/เครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ (PC)/เครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ/UPC/ HARD DISK = 1.00
- โต๊ะ/เก้าอี้ = 0.40
- เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น = 0.30
- เครื่องพิมพ์เลเซอร์สำสำหรับเครือข่าย/เครื่องพิมพ์อื่น ๆ = 0.50
- เครื่องสำรองไฟฟ้าอัตโนมัติ (UPS) = 0.50
- เครื่องฉายภาพโปรเจคเตอร์ = 0.50
- กระดาน Active Board = 0.40
- อุปกรณ์กระจายสัญญาณ (Switching HUB) = 0.50
- อุปกรณ์กระจายสัญญาณไร้สาย (Access Point) = 0.50
- ตู้เก็บโน้ตบุ้ค/แท็บเล็ต = 0.30
- ระบบเครือข่ายและระบบไฟฟ้า = 0.05
- Mouse = 0.25
- MONITOR = 1.00
- ระบบรักษาความปลอดภัยและระบบเครือข่าย = 1.00
ตัวอย่างการใช้ค่าตัวถ่วงคำนวณค่าปรับ
สมมุติว่า ระบุข้อกำหนดแนบท้ายสัญญา (TOR) ว่า กรณีที่ผู้ขายไม่สามารถแก้ไข/ซ่อมครุภัณฑ์ภายในกำหนดระยะเวลา 2 วันทำการ คิดค่าปรับในอัตราชั่วโมงละ 0.035 % ของราคาพัสดุ
ต่อมาวันหนึ่งผู้ซื้อได้ส่งหนังสือแจ้งให้ผู้ขายมาซ่อมพัสดุที่เสีย ได้แก่
1) เครื่องคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง (ราคาที่ระบุใน invoice = 16,000 บ.)
2) เครื่องพิมพ์ชนิดเลเซอร์สำหรับเครือข่าย 1 เครื่อง (ราคาที่ระบุใน invoice = 12,000 บ.)
3) เครื่องสำรองไฟฟ้าสำหรับแม่ข่าย 1 เครื่อง (ราคาที่ระบุใน invoice = 8,500 บ.)
แต่ผู้ขายมาเริ่มซ่อมหลังจากได้รับหนังสือ 2 วัน และใช้เวลาซ่อมอีก 3 วันจึงเสร็จ
( กรณีแจ้งพร้อมกัน 3 รายการ ต้องใช้ตัวถ่วงของพัสดุที่มีค่าตัวถ่วงมากที่สุด )
ค่าปรับจากการซ่อมพัสดุล่าช้า = ราคาพัสดุ (16,000 X 2 เครื่อง + 12,000 + 8,500 บ.) X ระยะเวลาขัดข้องที่เกินสัญญา 2 วัน (ในที่นี้คือเกินไป 3 วัน) X 8 ชั่วโมงต่อวัน X 0.035% X ตัวถ่วงที่มากที่สุดของทั้งสามรายการคือ 1 = 294 บาท
แต่ถ้าผู้ซื้อออกหนังสือแจ้งผู้ขายให้มาซ่อม 3 ฉบับ ในเวลาที่แตกต่างกัน จะต้องคิดค่าปรับแยกตามค่าตัวถ่วงของครุภัณฑ์นั้น ๆ
3. เย็นวันเดียวกัน ( 15 มี.ค.) มีผู้ “ระบาย” กับผม ผ่านเฟซบุ๊ค ว่า หนูเป็นบรรณารักษ์อัตราจ้างที่เกาะ ..... เงินเดือนกุมภายังไม่ออกเลย ค่าล่วงเวลาตั้งแต่เดือนธันวายังไม่ออก ค่าเช่าบ้านค้างเค้า 2 เดือน แบงค์อีก 2 เดือน นัดเจ้าหนี้เลื่อนมาหลายครั้งแล้ว คาดว่าเงินจะออกวันนี้ก็ไม่ออก ร้องไห้เลย การเงิน (อำเภอ) ชอบดองเรื่อง
ผมถามว่า ผอ. (อำเภอ) ว่ายังไงล่ะ
ผอ.เตือนการเงินหลายครั้งแล้ว ว่าให้ช่วยดู แต่ที่นี่เค้าไม่ฟังผู้บังคับบัญชาเลย เป็นแค่พนักงานราชการแต่บ้าอำนาจราวกับตัวเองเป็น ผอ. กินเงินโครงการจนถึงคอแล้ว แบ่งพวกแบ่งพ้อง ทางจังหวัดบอกว่าให้ส่งเรื่องเบิกเงินถึง จ.ก่อนวันที่ 25 หนูทำส่งวันที่ 20-21 แต่การเงินดอง มาทำงาน 10 โมง ยิ่งถ้าผอ.ไม่อยู่ เที่ยงบ้าง ไม่ก็บ่าย บางทีก็ไม่เข้าเลย เค้าอ้างว่างานเยอะ ก็ไม่เห็นมีอะไร นั่งอ่าน นสพ.บ้าง เดินไปเดินมา นั่งนินทาเจ้านาย นินทาเพื่อน ชอบโยนงานให้คนอื่นทำ
ผมบอกว่า ลองคุยกับ ผอ.อีกทีซิ ผมเอาไปลงในเว็บบล็อกผมได้ไหม
ได้ค่ะ ถ้าเป็นเด็กเค้าแล้ว วันนี้เงินเดือนออกพรุ่งนี้ลากิจตั้งไว้เลย เนื่องจากดื่มเหล้าหนักพรุ่งนี้ตื่นไม่ไหว
ที่จริง ผมไม่ควรนำเรื่องนี้มาลง เพราะไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงกี่เปอร์เซ็นต์ ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะทำให้ใครเสียหายถ้าเป็นเรื่องไม่จริง แต่ผมก็เห็นใจเขา ช่วยอะไรไม่ได้ คิดว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงในบางแห่ง ( มากกว่า 1 แห่ง ) การนำมาลงในเว็บบล็อกนี้อาจช่วยให้บางคนพึงสังวรขึ้นมาบ้าง
4. ดึกวันเสาร์ที่ 16 มี.ค.56 “นายต้น ตัวเล็ก” กศน.นนทบุรี ถามผมผ่านเฟซบุ๊ค ว่า เป็นบรรณารักษ์ปฏิบัติการ จะทำชำนาญการ เรียนจบ ป.โท สาขาบริหารธุรกิจ ต้องมีอายุราชการ 4 ปีหรือ 6 ปี เพื่อนถามคน กจ. เขาบอกว่าต้องจบโททางบรรณารักษ์ ถึงจะแค่ 4 ปี เลยอยากขอความกระจ่าง
ผมตอบว่า กจ.ตอบไม่ผิดหรอก บรรณารักษ์ต้องจบปริญญโทหรือปริญญาเอกทางบรรณารักษศาสตร์ สารนิเทศศาสตร์ ( ข้าราชการครูก็ต้องจบปริญญาโทหรือเอกทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ.กำหนด ) จึงจะปรับวุฒิ หรือลดเวลาการทำชำนาญการ ได้
5. วันอาทิตย์ที่ 17 มี.ค.56 ท่านจรัส ผู้เชี่ยวชาญงานจังหวัดชายแดนภาคใต้ กศน. โพสท์ในเฟซบุ๊คกลุ่มครูนอกระบบ เรื่อง กศน.ผุดงานสำคัญเกี่ยวกับคนพิการอีก 2 กิจกรรม ( โฮมสคูลคนพิการ 25 จังหวัด กับจัดฟุตบอล ครม.นัดพิเศษ พ.ค.นี้ ) ว่า นายประเสริฐ บุญเรือง เลขาธิการกศน. เปิดเผยว่า
5.1 สำนักงาน กศน.ได้จัดโครงการการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยแบบกึ่งโฮมสคูลสำหรับคนพิการ ต่างจากเดิมที่ กศน.จะส่งครู กศน.ไปสอนนักเรียนคนพิการที่บ้าน โดยโครงการนี้ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ จำนวน 6.8 ล้านบาท ซึ่ง กศน.จะจัดอบรมเรื่องการดูแลคนพิการ ให้ครู กศน.จำนวน 925 คน พร้อมด้วยผู้ปกครองและเครือข่ายอีก 625 คน รวม 1,650 คน
พ่อแม่ผู้ปกครองและเครือข่ายจะเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นผู้จัดการศึกษาให้กับคนพิการที่บ้านด้วย เพราะเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดผู้พิการตลอดเวลา รวมทั้งร่วมพัฒนาสื่อการเรียนการสอน การจัดกิจกรรมสำหรับผู้พิการ โดยนำร่อง 25 จังหวัดที่มีผู้พิการเรียนกับ กศน.จำนวนมาก อาทิ สุพรรณบุรี พัทลุง นครราชสีมา อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด และน่าน เป็นต้น
5.2 เพื่อเป็นการรณรงค์ให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง และนักเรียนพิการ เข้าใจถึงโครงการดังกล่าว และแสดงให้เห็นว่ากศน.ให้ความสำคัญกับการศึกษาของผู้พิการ จึงจะจัดกิจกรรมนิทรรศการการศึกษาตลอดชีวิตและการศึกษาสำหรับผู้พิการ พร้อมจัดงานวันกีฬาส่งเสริมผู้พิการขึ้น ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยจัดการแข่งขันฟุตบอลระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) กับคณะทูตานุทูต อีก 3 ทีม รวม 4 ทีม แข่งขันกันแบบพบกันหมด ทีมที่ได้คะแนนสูงสุดจะได้รับถ้วยรางวัลนายกรัฐมนตรี โดยนัดเปิดสนามคือวันที่ 7 พ.ค.56 ระหว่าง ครม.กับทีมคณะทูต ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานเปิดนิทรรศการ และเขี่ยบอลนัดเปิดสนาม ทั้งนี้การแข่งขันฟุตบอลดังกล่าวจะแข่งทุกวันอังคารตอนบ่าย หลังจากเลิกประชุม ครม.แล้ว ตลอดเดือน พ.ค.นี้ และจะมีการนำผู้พิการร่วมงานวันละ 1,000 คน ซึ่งจะมีกองเชียร์ เชียร์ลีดเดอร์ผู้พิการด้วย
6. วันที่ 18 มี.ค.56 อ.เพชร สำนักนิติการ สป.ศธ. บอกผมว่า ตามที่ กศน.เสนอระเบียบแก้ไขเครื่องแบบปกติของพนักงานราชการ สป.ศธ. ซึ่งแบ่งอินทรธนูออกเป็น 4 กลุ่ม/ระดับ โดยใช้ตราเสมาติดทับบนอินทรธนู เพื่อให้แตกต่างจากอินทรธนูของข้าราชการหรือลูกจ้างประจำ นั้น เนื่องจาก ไม่แน่ใจว่า เมื่อนำตราเสมาติดทับบนอินทรธนูแล้ว จะยังเหมือนหรือคล้ายอินทรธนูของข้าราชการหรือลูกจ้างประจำอยู่หรือไม่ ซึ่งสำนักนายกรัฐมนตรีเคยมีหนังสือราชการแจ้งว่าเครื่องหมายของเจ้าหน้าที่ รัฐแต่ละประเภทต้องไม่เหมือนหรือคล้ายกัน ท่านปลัดกระทรวง ศธ. จึงให้ทำหนังสือหารือสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า เครื่องแบบตามร่างระเบียบใหม่นี้ เหมือนหรือคล้ายเครื่องแบบของข้าราชการหรือลูกจ้างประจำหรือไม่ และจะแบ่งอินทรธนูออกเป็น 4 กลุ่ม/ระดับได้หรือไม่ ทั้งนี้ ได้ส่งหนังสือหารือออกจาก สป.ศธ. เมื่อวันที่ 14 มี.ค.56
ตอนนี้ก็คอยการตอบข้อหารือของสำนักนายกรัฐมนตรี
7. เย็นวันที่ 18 มี.ค.56 มีผู้คุยถามตอบ กับผม ผ่านเฟซบุ๊ค เรื่อง นักศึกษาสอบแทนกัน ดังนี้
ถาม : ถ้าสมมติว่าเป็นผู้บริหาร แล้วจับได้ว่านักศึกษาเข้าสอบแทน จะรู้สึกอย่างไร
ผมตอบ : รู้สึกว่าขัดกับหลักคุณธรรม 9 ประการที่เราปลูกฝัง ควรลงโทษให้สอบตกทั้งคู่เพื่อเป็นตัวอย่าง
ถาม : แล้วครูจะมีความผิดไหม
ผมตอบ : ก็ต้องพิจารณาดูสภาพการณ์ต่าง ๆ ว่า ครูน่าจะรู้เห็นด้วยหรือเปล่า ถ้าครูไม่ได้รู้เห็นด้วย ครูก็ไม่มีความผิด แต่ก็ดูขั้นตอนต่าง ๆ ว่าทำไมจึงมีจุดอ่อนให้สอบแทนกัน ( ถ้าจับได้ตั้งแต่เริ่มสอบโดยการตรวจบัตรก็ถือว่าไม่มีจุดอ่อน )
ถาม : ผอ.ไม่ได้จัดประชุมคณะกรรมการคุมสอบ เลยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แสดงว่า ผอ.หละหลวมไหม
ผมตอบ : ผอ.เป็นผู้รับผิดชอบทุกเรื่อง จะดูว่าหละหลวมหรือไม่ก็ดูว่าจับได้ตอนไหนอย่างไร ถ้าจับได้ตั้งแต่เริ่มสอบโดยการตรวจบัตรก็ไม่ถือว่าหละหลวม
ถาม : เขาไม่ได้ตรวจบัตร นศ. ครูผู้คุมเขาอ้างว่า ทำไมคุณไม่จัดประชุมก่อนว่าจะเอาแบบไหน
ผมตอบ : ก็ถือเป็นบทเรียน ครั้งแรกคงไม่ต้องว่าคนคุมสอบมาก แต่ก็ถือว่าผู้บริหารหละหลวมได้ เพราะผู้บริหารต้องรับผิดชอบทุกเรื่อง แก้ไขโดยครั้งต่อไปประชุมก่อน หรือพิมพ์คำชี้แจง/ขั้นตอนวิธีการ แจกผู้คุมสอบ
ถาม : จังหวัดเขามานิเทศ เขาเลยเจอ เขาจับออกจากห้องสอบและปรับวิชานั้นเป็นตก ผอ.ก็เลยรายงานไปที่ จว.โดยเจ้าหน้าที่นิเทศยังไม่ได้รายงาน และ ผอ.จะให้ครูที่รับผิดชอบ นศ.คนนั้น ( ครู กศน.ตำบล ครู ศรช. ครูประจำกลุ่ม ) ให้ออก โดยไม่ต่อสัญญา เราควรทำยังไง
ผม ตอบ : เราต้องดูว่า ครูเขารู้เห็นเป็นใจด้วยหรือเปล่า ดูความจริง ไม่ใช่คิดจะช่วยกันอย่างเดียว ถ้าครูเขารู้เห็นเป็นใจด้วยก็ควรมีความผิด แล้วแต่ผู้บริหารจะพิจารณา แต่ครั้งแรก ถ้าเป็นพนักงานราชการ อาจให้เพิ่มค่าตอบแทนปีนี้น้อย ๆ หรือไม่เพิ่ม แต่ถ้าครูไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วยจริง ก็อาจแค่ตักเตือนให้รอบคอบ/ให้อบรมสั่งสอน นศ. ถ้าครูไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วยแน่ ควรแนะนำให้เขาขอความเห็นใจจาก ผอ. ให้เชื่อว่าเขาไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วยจริง ๆ และคุยกับผู้ใหญ่ในจังหวัดให้ช่วยพูดด้วย
ถาม : เขาก็ไม่เรียกไปตักเตือนเลย มีแต่จะดำเนินคดีอย่างเดียว
ผมตอบ : เขาไม่เรียกไปเตือน ก็ขอเข้าไปคุยกับเขาเองก็ได้
ถาม : เขาส่งเรื่องไปแจ้งจังหวัดเลย ทำไมผู้บริหารถึงไม่ปกป้องลูกน้อง
ผมตอบ : ผมไม่ทราบข้อมูลรายละเอียดตื้นลึกหนาบาง วิจารณ์ไม่ได้ ผมไม่ทราบสภาพการณ์ ผอ.อาจเชื่อว่าครูบกพร่อง/ครูมีปัญหา ลองทำตามที่ผมแนะนำดู คือถ้าไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วยก็ขอคุยกับ ผอ. และขอให้ผู้ใหญ่ในจังหวัดช่วยพูดด้วย
8. คืนวันเดียวกัน ( 18 มี.ค. ) คุณอาธิป นักวิชาการคอมพิวเตอร์ สนง.กศน.จ.ยะลา ถามผมผ่านเฟซบุ๊ค ว่า เหตุใด กศน. จึงจ้างพนักงานราชการ ตำแหน่งนักวิชาการคอมพิวเตอร์ ให้อยู่ในกลุ่มบริหารทั่วไป แทนที่จะจัดให้อยู่ในกลุ่มวิชาชีพเฉพาะ เหมือนกับส่วนราชการอื่น ๆ
ผมตอบว่า ขึ้นอยู่กับส่วนราชการมีภารกิจหลักเป็นงานใด แต่ละส่วนราชการจะทำงานหลักไม่เหมือนกัน เช่น มหาวิทยาลัย สพฐ. กศน. งานหลักคือ การสอน แต่ถ้าเป็น ก.พ. งานหลักคือ งานบุคลากร หลายส่วนราชการให้ตำแหน่งนิติกรอยู่ในกลุ่มงานวิชาชีพเฉพาะ แต่มหาวิทยาลัยให้ตำแหน่งนิติกรอยู่ในกลุ่มงานบริหารทั่วไป
คุณชัยพร กจ.กศน. บอกผมว่า กศน.กำหนดให้พนักงานราชการประเภททั่วไปมีเพียง 3 กลุ่มงาน คือกลุ่มงานบริหารทั่วไป กลุ่มงานบริการ และกลุ่มงานเทคนิค ไม่มีกลุ่มงานวิชาชีพเฉพาะ
9. วัน ที่ 19 มี.ค.56 ผมถามคุณชัยพร กจ.กศน. ว่า การเพิ่มค่าตอบพนักงานราชการย้อนหลังตั้งแต่ 1 ม.ค.56 จะจ่ายเงินตกเบิกได้เมื่อไร คุณชัยพรบอกว่า ตอนนี้ตรวจการออกคำสั่งเพิ่มค่าตอบแทนไปได้ห้าสิบกว่าจังหวัดแล้ว ถ้าครบทุกจังหวัดก็จะรู้ว่าต้องใช้เงินเท่าไร จากนั้นก็จะประสานกับกลุ่มแผนงานและกลุ่มงานคลัง ดำเนินการของบประมาณมาโอนให้จังหวัดเพิ่ม ซึ่งปีนี้จะใช้เวลาพอสมควรเพราะไม่ได้เตรียมงบประมาณไว้ แต่ปีหน้า 1 ม.ค.57 รู้ล่วงหน้าแล้ว จะเร็วขึ้น โดยจะจัดงบประมาณ 2557 เตรียมไว้เลย แล้วให้จังหวัดออกคำสั่งภายใน ธ.ค.56 เลย สำหรับปีนี้คาดว่าจะจ่ายเงินตกเบิกได้ประมาณ พ.ค.-มิ.ย.56